หวานอมเปรี้ยวและฉ่ำน้ำ

Advertisements

พุทราเขียวมักจะมีลักษณะเป็นสีเขียวสดหรือสีเหลืองเขียว มีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ พุทราเขียวไม่เพียงแต่เป็นผลไม้ที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและหน้าที่มากมายอีกด้วย


พุทราเขียวอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ของเราจากการทำลายของอนุมูลอิสระ การได้รับวิตามินซีอย่างเพียงพอจะช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่งเสริมการสมานแผล บำรุงหลอดเลือดให้แข็งแรง และช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อและโรคต่างๆ


พุทราเขียวยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ใยอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาระบบย่อยอาหารให้แข็งแรง ช่วยส่งเสริมการเคลื่อนไหวของลำไส้ ป้องกันอาการท้องผูก และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอล ใยอาหารในพุทราช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร รักษาสุขภาพของลำไส้ และช่วยรักษาน้ำหนักได้


พุทราเขียวอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และแมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านี้จำเป็นต่อสุขภาพกระดูก การทำงานของหัวใจ และการส่งผ่านประสาท การบริโภคแร่ธาตุเหล่านี้อย่างเพียงพอสามารถช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ลดความรู้สึกเหนื่อยล้า รักษาจังหวะการเต้นของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติ และสนับสนุนการทำงานทางสรีรวิทยาตามปกติของร่างกาย


ยังมีสารประกอบจากพืชหลายชนิด เช่น ฟลาโวนอยด์และโพลีฟีนอล สารประกอบเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน การบริโภคพุทราเขียวทำให้เราได้รับสารประกอบจากพืชที่มีประโยชน์เหล่านี้ ซึ่งช่วยเสริมสุขภาพร่างกายและการทำงานของภูมิคุ้มกัน


เวลากินพุทราเราสามารถเลือกกินได้เลยหรือใช้ปรุงอาหารก็ได้ พุทราเขียวสามารถเสิร์ฟเป็นส่วนหนึ่งของสลัดผลไม้หรือใช้ในแยม น้ำผลไม้ ขนมอบ และของหวาน ไม่ว่าจะรับประทานด้วยวิธีใด พุทราสีเขียวก็มีประโยชน์มากมาย


อย่างไรก็ตาม พุทราเขียวนั้นอุดมไปด้วยน้ำตาล ดังนั้นจึงควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ บุคคลเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวควรบริโภคพุทราภายใต้คำแนะนำของแพทย์


ตั้งแต่การเพิ่มภูมิคุ้มกันไปจนถึงการรักษาสุขภาพทางเดินอาหาร พุทราเขียวช่วยให้ร่างกายของเรามีสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ไม่ว่าจะรับประทานเลยหรือนำไปประกอบอาหาร พุทราเขียวก็เป็นทางเลือกที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ

Advertisements


การทำความสะอาดพุทราเป็นขั้นตอนสำคัญในการรับรองความปลอดภัยและสุขอนามัย


1. ล้างมือ: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำความสะอาดพุทราเขียว ให้แน่ใจว่ามือของคุณสะอาด


2. ล้างด้วยน้ำ: ใส่พุทราเขียวลงในอ่างล้างจานหรือชามใบใหญ่ แล้วล้างด้วยน้ำไหล ถูด้วยมือเบาๆ ให้แน่ใจว่าได้ล้างสิ่งสกปรกออกจากพื้นผิวแล้ว


3. แช่น้ำอุ่น: เตรียมชามหรือภาชนะใบใหญ่แล้วเทน้ำอุ่นลงไปให้พอแช่พุทราลงไปให้หมด เวลาในการแช่ประมาณ 10 ถึง 15 นาที ซึ่งจะช่วยให้ผิวขี้ผึ้งของพุทราอ่อนลง


4. การทำความสะอาดด้วยแปรงขนอ่อน: ใช้แปรงขนอ่อน (เช่น แปรงล้างผัก) ขัดผิวพุทราเบาๆ ระวังอย่าใช้แรงมากเกินไป เพราะอาจทำให้เปลือกเสียหายได้ ในระหว่างขั้นตอนการขัด สามารถล้างพุทราซ้ำได้หลายครั้ง


5. ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง: ใส่พุทราที่ล้างสะอาดแล้วลงในอ่างล้างจานหรือชามขนาดใหญ่ แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งสกปรกและสิ่งสกปรกที่หลงเหลืออยู่ระหว่างขั้นตอนการขัดถูกขจัดออกไป


6. ล้างผ่านน้ำไหล: ล้างพุทราทีละลูกใต้น้ำไหล ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพุทราเขียวสะอาดหมดจด


7. ผึ่งให้แห้ง: วางพุทราเขียวที่ล้างและสะเด็ดน้ำแล้วบนกระดาษเช็ดมือหรือผ้าเช็ดครัวที่สะอาดแล้วปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ


เราสามารถขจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียออกจากพุทราได้ โดยการทำความสะอาดอย่างถูกต้อง ทำให้มั่นใจได้ว่าพุทราที่เราบริโภคนั้นสะอาดและดีต่อสุขภาพ